จุดประสงค์
1. ศึกษาลักษณะของการยิ้มในแบบต่างๆ
2. ทราบถึงประโยชน์และความสำคัญของการยิ้ม
3. ศึกษาเรื่องการยิ้มที่ส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจ
ยิ้มคืออะไร
คำว่า “ยิ้ม” หมายถึง แสดงให้ปรากฏว่าชอบใจ , เยาะเย้ย หรือเกลียดชังเป็นต้น (พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน 2542 หน้า 906-907) ถ้ากล่าวเป็นภาษาคำพูดง่ายๆก็อาจจะกล่าวว่าเป็นการแสดงออกอารมณ์ต่างๆอาจเป็นในแง่บวก เช่น แสดงออกถึง ความพึงพอใจ ดีใจ ปลื้มใจ และเป็นสุข หรืออาจแสดงออกในแง่ลบ เช่น เกลียดชัง เยาะเย้ย เป็นต้น
การยิ้มที่ดีนั้นคือการยิ้มที่จริงใจ หมายถึง ยิ้มออกมาจากข้างในใจมิใช่ยิ้มแค่เพียงใบหน้าที่เป็นเพียงภายนอกอย่างเดียวเท่านั้น นั้นคือ เวลายิ้มใจเราต้องยิ้มด้วยนั่นถือว่าเป็นการยิ้มที่แท้จริง
ยิ้มเป็นความสามารถพิเศษที่ติดตัวอยู่กับทุกคนในโลกทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนว่าแต่ละคนจะยิ้มได้ในระดับใดระดับของการยิ้มแบ่งออกเป็น 3 ระดับดังนี้
ระดับธรรมดา ยึดกล้ามเนื้อที่มุมปากให้เหยียดออก
ระดับพิเศษ นอกจากจะเหยียดยึดมุมปาก ยังแถมด้วยแววตาระยิบระยับ
ระดับเซียน นอกจากจะทั้งยึดมุมปากสุดเหยียด พร้อมประกายแววตา ระยิบระยับแล้วยังอัดความจริงใจให้ส่งพุ่งกระแทกหัวใจต่อฝ่ายตรงข้าม
ผลของการยิ้มที่มีผลต่อคนรอบข้างและสุขภาพ
1. การยิ้มเป็นประจำช่วยผ่อนคลายตึงเครียดโดยร่างกายจะหลั่งสารแอนเดอร์ฟีนไปที่สมอง ทำให้มีอารมณ์แจ่มใส
2. เคล็ดลับในการยิ้มควรยิ้มทั้งปากและตา และมองตากันค้างไว้อย่างน้อย 3 วินาที เพื่อให้ต้องมนต์สะกดอย่างแท้จริง
3. นักมานุษยวิทยาสังเกตพบว่าการยิ้มเห็นได้ชัดไกลตั้ง 45 เมตร ในขณะที่อารมณ์อื่นต้องเข้าใกล้ๆ ถึงจะเห็น
4. การยิ้มที่ดีต้องยิ้มให้ถูกเวลาและถูกกาลเทศะด้วย มิฉะนั้นอาจจะเป็นอันตรายกับตัวเองได้
5. รอยยิ้มที่ค้างอยู่บนใบหน้านานเกินไปมักจะดูเหมือนหุ่นยนต์หรืออีกอย่างหนึ่งเรียกว่า ยิ้มเสแสร้ง คุณควรมียิ้มที่ จริงใจดีกว่า เพราะถ้ายิ้มเสแสร้งของคุณเด่นชัดเกินไปผู้คนจะไม่เชื่อถือ
6. วิธีมีรอยยิ้มอันสดใส คือ หัดยิ้มบ่อยๆ และจริงใจ ยิ่งคุณยิ้มมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็น ที่ชื่นชอบของคนอื่น และคุณเองก็มี ความสุขควบคู่กันไปด้วยเหมือนกัน
7. "ยิ้มไม่ต้องหาจากไหนเพียงแค่ขยับมุมปาก ก็หายิ้มเจอ"
8. ช่วยกระตุ้นต่อมไร้ท่อต่างๆในร่างกาย รวมทั้งต่อมใต้สมอง ซึ่งควบคุมการเจริญเติบโตของร่างกาย
9. ช่วยกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัว กระตุ้นหัวใจ ต่อมและฮอร์โมนตลอดจนการหายใจ
10. ช่วยปล่อยสารเอนดรอฟีน (endorphine) และเอ็นเคอฟาลินส์ (enkephalins) ซึ่งเป็นตัวฆ่าความ เจ็บปวดเหมือนมอร์ฟีน และเฮโรอีน
11. เกิดปฏิกิริยาทางเคมีกับสมองด้านขวา ซึ่งควบคุมอารมณ์และความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์
การยิ้มประกอบด้วยปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ดังนี้
ปัจจัยภายใน ได้แก่
สุขภาพกายดี สุขภาพจิตดี มีธรรมะในใจ รู้จักและเข้าใจธรรมชาติของชีวิต มีทัศนคติที่ดี มองโลกในแง่ดีและคิดดี รู้จักการ
ควบคุมตนเองและมีการพัฒนา EQ รวมทั้งมีบุคลิกภาพเบิกบาน ร่าเริงแจ่มใส เปิดเผยตนเอง และมีมนุษยสัมพันธ์ดี
ปัจจัยภายนอก ได้แก่
1. ประสบการณ์ชีวิตที่ได้รับที่เอื้อต่อการยิ้ม เช่น วัฒนธรรมการเลี้ยงดู
2. สิ่งแวดล้อม และสถานการณ์ต่างๆ เช่น ได้รับการชื่นชมประสบความสำเร็จ การให้กำลังใจ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
ยิ้มกลบเกลื่อน แก้เขิน เป็นต้น
3. อาชีพ / บทบาทที่ทำให้ยิ้ม เช่น พนักงานต้อนรับ นักร้อง นักแสดง เป็นต้น
4. การอยู่ร่วมกันในสังคม
5. สิ่งกระตุ้นในสังคมต่างๆ ที่ทำให้ยิ้ม เช่น กิจกรรมบันเทิงต่างๆ เป็นต้น
ยิ้ม ช่วยทำให้สุขภาพของบุคคลที่ยิ้มดีขึ้น ทั้งสุขภาพจิตและร่างกาย ในด้านสุขภาพจิต ยิ้มจะช่วยทำให้ผู้ยิ้มไม่รู้สึกเครียด กดดัน การยิ้มช่วยทำให้มีความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์ดี ช่วยกระตุ้นต่อมไร้ท่อต่างๆ ให้ทำงานอย่างปกติ ช่วยทำให้แจ่มใสร่าเริง ฯลฯ ด้านสุขภาพร่างกาย ทำให้อวัยวะนั้นทำงานอย่างปกติ แข็งแรง ช่วยต่อต้านโรคภัยไข้เจ็บ และเมื่อสุขภาพจิตดี สุขภาพกายก็จะดีขึ้นด้วย ดังนั้นหากต้องการสุขภาพดีๆ ก็ควรจะยิ้มอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เริ่มจากยิ้มกับ ตัวเอง อาจจะส่องกระจกและหันไปยิ้มกับบุคคลรอบข้างด้วย
ประโยชน์ของการยิ้มมีมากมายทั้งต่อตนเอง ต่อครอบครัวและต่อสังคม การยิ้มทำให้ ร่างกายแข็งแรง ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยสามารถหายจากอาการเจ็บป่วยได้เร็วขึ้น ทำให้จิตใจเป็นสุข รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด มองโลกในแง่ดี สามารถเอาชนะปัญหาอุปสรรคต่างๆ ได้ การยิ้ม ทำให้ช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัว เสริมสร้างสุขภาพจิตที่ดีแก่สมาชิกใน ครอบครัว ช่วยลดความตึงเครียดเมื่อเกิดปัญหาในครอบครัว การยิ้มยังเป็นการสร้างมิตร ลดความเหินห่างจากคนที่เพิ่มพบปะกัน ช่วยเพิ่มเสน่ห์แก่ตนเอง และเพิ่มความประทับใจแก่ผู้อื่นที่พบเจอกัน
รอยยิ้มเป็นสิ่งที่สร้างสิ่งดีๆ มากมาย มีประโยชน์ที่บรรยายแทบไม่หมด ดังนั้นหากเราหันมายิ้มให้กันสักนิด ชีวิตของเราก็จะน่าอยู่ขึ้นเยอะ เพราะมีความสุข ดังนั้นจะมัวชักช้ากันทำไม มาเริ่มยิ้มกันตั้งแต่วันนี้เลยดีกว่า แล้วจะรู้ว่าโลกนี้ยังมีสิ่งดีๆ แฝงอยู่อีกมากมาย
<<-------หน้าแรก-------->>
|
